วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2553

แบทแมน ตอน4


แบทแมน อัศวินรัตติกาล
แบทแมน อัศวินรัตติกาล คือ ภาพยนตร์ชุดแบทแมนลำดับที่ 6 เข้าฉายในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี ค.ศ. 2008 (พ.ศ. 2551) กำกับโดย คริสโตเฟอร์ โนแลน นำแสดงโดย คริสเตียน เบล เนื้อหาของแบทแมน อัศวินรัตติกาลจะเป็นการเผชิญหน้ากันของแบทแมนและโจ๊กเกอร์อาชญากรตัวฉกาจที่ทำให้ชาวเมืองก๊อธแธมต้องหวาดกลัว นอกจากนั้นยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับความเป็นฮีโร่ของแบทแมนซึ่งมีเนื้อหาที่ซับซ้อนและผสมดราม่าไว้มากทำให้ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีตากหลายสำนัก ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นผลงานการแสดงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ครั้งสุดท้ายของฮีธ เลดเจอร์ผู้รับบทเป็นโจ๊กเกอร์ซึ่งเสียชีวิตก่อนที่ภาพยนตร์จะออกฉาย นอกจากนั้นฮีธยังได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย แบทแมน อัศวินรัตติกาลได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 8สาขาด้วยกันและได้รับรางวัลมา 2สาขา ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำเงินไปถึง1,001,921,825เหรียญสหรัฐ อยู่ในอันดับ5ของอันดับภาพยนตร์ทั่วโลกที่ทำเงินได้มากที่สุดตลอดกาล

แบทแมน ตอน3


ประวัติการสร้างและการตีพิมพ์

เริ่มต้นในปี พ.ศ. 2482 (ค.ศ 1939) ค่ายพิมพ์ เนชันแนล พับบลิคเคชั่น (National Publication) (ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็น ดีซี คอมิคส์) ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท ไทม์วอร์เนอร์ (Time Warner) ได้ประสบความสำเร็จจากเรื่องซุปเปอร์แมนในต้องการตัวละครเพิ่ม บ็อบ เคน ได้สร้างตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่ชื่อ เบิร์ดแมน (Birdman) ด้วยความร่วมมือจาก บิล ฟิงเกอร์ ได้เปลี่ยนจากหน้ากากนก มาเป็นหมวกคลุมทั้งหัว และได้เปลี่ยนจากปีกนกมาเป็นผ้าคลุม และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น แบทแมน
ในภายหลัง. มีหลายคนให้ความเห็นว่า ลักษณะของของแบทแมนได้แรงบันดาลมาจาก โซโล แฟนทอม เชอร์ลอค โฮล์ม ซุปเปอร์แมน ดิ๊ก เทรซี่ หรือแม้แต่ภาพวาดของ ลีโอนาร์โด ดา วินชี่. ในช่วงเริ่มต้น แบทแมนมีลักษณะของคนล้างแค้น ได้ใช้ความรุนแรงและปืนพก หลังจากนั้นแบทแมนก็ได้โด่งดังไปทั่ว เพราะความรุนแรงของเนื้อเรื่อง ถึงขนาดที่แผนกเนชั่นแนลคอมิกบุกส์ ได้เปลี่ยนมาเป็น บริษัทเนชั่นแนลคอมิกบุกส์
หลังจากนั้น ทางบริษัทได้ปรับเปลี่ยนความรุนแรงให้ลดลงเพื่อเพิ่มผู้อ่านในกลุ่มเยาวชน หลังจากนั้น เคนได้คิดตัวละครขึ้นมาใหม่คือ พัค ในขณะที่ ฟิงเกอร์ได้คิดตัวละคร โรบิน ขึ้นมา หลังจากนั้นคู่หู แบทแมนกับโรบิน ก็ฮิตติดตลาดกลายเป็นขวัญใจของผู้คนในช่วงนั้น และเป็นที่รู้จักกันทั่ว

วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2553

แบทแมน ตอน2


The Dark Knight

ภาคต่อของภาพยนตร์แอ็คชั่นเรื่องฮิต Batman Begins ในเรื่อง The Dark Knightเป็นการร่วมงานกันอีกครั้งของผู้กำกับฯ คริสโตเฟอร์ โนแลน และนักแสดงหนุ่มคริสเตียน เบล ซึ่งกลับมารับบท แบทแมน/บรูซ เวย์น ในภาพยนตร์เรื่องใหม่นี้แบทเมนวางเดิมพันเพิ่มขึ้นในการต่อสู้กับอาชญากรรม ด้วยความช่วยเหลือของผู้หมวดจิม กอร์ดอน และอัยการเขตฮาร์วีย์ เดนท์ แบทแมนเริ่มทำลายล้างกลุ่มอาชญากรที่ยังคงระบาดไปทั่วท้องถนน การร่วมแรงของพวกเขาดูจะเป็นผลดี แต่ต่อมาไม่นานพวกเขากลับพบว่ากำลังตกเป็นเหยื่อของความวุ่นวายที่ถูกสร้างขึ้นโดยเจ้าแห่งอาชญากรสมองใสซึ่งชาวเมืองกอธแธมที่หวาดผวารู้จักกันดีในนามของโจ๊กเกอร์

แบทแมน


แบทแมน เป็นตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่จากการ์ตูนฮีโร่ของอเมริกา ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือการ์ตูนเรื่อง ดีเทคทีฟ คอมิคส์ ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2482 (พ.ศ. 1939) บ๊อบ เคน และ บิล ฟิงเกอร์ เป็นผู้วาดและผู้แต่งเรื่องแบทแมนในยุคแรก แต่คนทั่วไปจะรู้จักแต่ บ๊อบ เคนเท่านั้น หลังจากที่แบทแมนปรากฏตัวหลายครั้งในหนังสือ ดีเทคทีฟ คอมิคส์ ได้ระยะหนึ่ง การ์ตูนเรื่องแบทแมนได้ออกมาเป็นเนื้อเรื่องของตัวเองและหลังจากนั้น และมีตัวละครอื่นตามมาได้แก่ โรบิน และ แบทเกิร์ล นอกจาก ซุปเปอร์แมนแล้ว แบทแมนคือตัวละครหนึ่งในสองที่มีชื่อเสียงของค่ายหนังสือ ดีซี คอมิคส์

แบทแมนคือเศรษฐีนักธุรกิจชื่อ บรูซ เวย์น ที่ต่อสู้กับพวกฆาตกรมาตั้งแต่สมัยที่พ่อแม่ของเขาถูกฆาตกรรมต่อหน้าตอนอายุ 8 ปี ฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่ของเวย์น ได้เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากเริ่มต้นที่เป็น โจ๊กเกอร์ ในภาพยนตร์เรื่องแบทแมนของ ทิม เบอร์ตัน ในปี พ.ศ. 2532 (ค.ศ. 1989) , แต่ในเนื้อเรื่องปัจจุบัน ฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่ของเขาเป็นโจรธรรมดาชื่อ โจ ชิล
ตามท้องเรื่อง เมืองก็อธแฮม เป็นเมืองที่ตั้งขึ้นตามลักษณะของมหานครนิวยอร์ก โดยเน้นถึงลักษณะของเมืองในช่วงกลางคืน โดยให้เกิดความรู้สึกแตกต่างกับเมืองเมโทรโพลิสในเรื่องซุปเปอร์แมน. โดยปกติแบทแมนจะปรากฏตัวเฉพาะในตอนกลางคืน โดยมีสัญลักษณ์ค้างคาว (Bat Signal) บนท้องฟ้า โดยส่องจากสปอตไลท์ขอความช่วยเหลือโดยตำรวจเมืองก็อทแฮม แบทแมนหลบซ่อนตัวอยู่ใน ถ้ำค้างคาว ที่สร้างอยู่ภายใต้คฤหาสน์เวย์น ของบรูซ เวย์น ซึ่งเก็บอาวุธและเครื่องมือต่าง ๆ
แบทแมนแตกต่างจากซุปเปอร์ฮีโร่ทั่วไปคือ ไม่มีพลังพิเศษ แต่แบทแมนก็มีความสามารถเทียบเท่าซุปเปอร์ฮีโร่ทั่วไป จากการฝึกฝนร่างกายตัวเองอย่างหนัก และพัฒนาอาวุธไฮเทคเพื่อใช้ในการต่อสู้